+076 213 243
info@juitui.com
Chinese (Simplified)EnglishJapaneseKoreanThai
Facebook
Google+
YouTube
Instagram
logo-1
  • หน้าหลัก
  • เกี่ยวกับเรา
    • ประวัติความเป็นมา
    • คณะกรรมการ
  • อัลบั้มรูป
  • กิจกรรม
  • บทความ
  • ติดต่อเรา

ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง

history-header

ประวัติศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย (กิ้วอ๋อง)

ปฏิสนธิของประวัติกิ้วอ๋อง ซึ่งเดิมอยู่ที่เมืองจีนของจังหวัดกั่งส่าย ซึ่งเป็นที่สักการบูชาของพวกคณะงิ้วเป็นอย่างมาก
เริ่มแรกเดิมทีของเรื่อง คือ ครั้งสมัยหนึ่งประมาณการผ่านไปเจ็ดสิบกว่าปีแล้วมีงิ้วคณะหนึ่งได้นำคณะล่องใต้ไปแสดงตามสถานที่ต่างๆ คณะงิ้วจะต้องอัญเชิญ กิ้วอ๋อง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขานับถือ สักการบูชาอย่างสูงให้ท่านติดตามไปคุ้มครอง  ปกปักรักษาให้พวกเขาอยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา
ต่อมาคณะงิ้วดังกล่าวได้เดินทางมาถึงภูเก็ต ก็ได้เริ่มทำการแสดงอยู่ที่ซอยรมณีย์ทางด้านวัดมงคลนิมิต(ซึ่งคนพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตเรียกซอยรมณีย์ว่า “อ่างอ่าหล่าย”) คณะงิ้วได้มาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตนานพอประมาณ ระหว่างที่คณะงิ้วอยู่ที่ภูเก็ตนั้นก็ได้จัดให้มีพิธีกินผัก(กินเจ) กัน  ซึ่งพวกงิ้วได้ถือปฏิบัติสืบอายุเป็นตอนๆมา พิธีการกินเจคือเริ่มขึ้นประมาณเดือน 9 ขึ้น 1 ค่ำ ของปฏิทินจีน (เก้าโง้ยโซ่อีด) ก่อนถึงวันกินเจพวกคณะงิ้วจะ ปัดกวาด ล้างชำระสถานที่เครื่องใช้ หม้อข้าว ถ้วยชาม และสิ่งของที่จะประกอบในพิธีให้สะอาด ผู้ที่จะเข้าร่วมในพิธีจะต้องแต่งตัว นุ่งขาวห่มขาว ในพิธีการกินเจซึ่งมีทั้งหมด 9 วัน 9 คืน
ในสมัยนั้นก็มีพี่น้องชาวภูเก็ต ทั้งคนจีน และคนไทย ได้เข้าร่วมพิธีการถือศีลกินเจกับคณะงิ้วด้วย พี่น้องชาวภูเก็ตของเราก็ได้ศึกษา ปฏิบัติ พิธีการต่างๆ ตั้งแต่วันเริ่มงานกินเจจนเสร็จพิธี ในพิธีการกินเจนี้เขาจะมีพิธีขึ้นเสาโกเต้ง มีตะเกียงน้ำมัน 9 ดวง ซึ่งเป็นสัญาลักษณ์ของพิธีการกินเจได้เริ่มขึ้นแล้ว ในพิธีการกินเจก็จะมีการประทับทรงพระ ทำพิธีลุยไฟ สะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมันซึ่งกำลังเดือด พิธีไหว้เทวดา มีการแห่ขบวนไปตามถนนสายต่างๆ พอครบกำหนด 9 วัน 9 คืน  ก็เป็นอันเสร็จพิธีการกินเจ
เมื่อพวกคณะงิ้วเสร็จสิ้นการแสดงงิ้ว ต่างก็เก็บข้าวของเตรียมจะเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน หัวหน้าคณะงิ้วได้พิจารณาเห็นว่าพี่น้องชาวภูเก็ตทั้งคนจีนคนไทยมีความเลื่อมใสศรัทธาในพิธีการถือศีลกินเจ คณะงิ้วเลยได้อัญเชิญเหี่ยวโห้ย และสิ่งของต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้ในพิธีการกินเจให้ไว้กับพี่น้องชาวภูเก็ตไว้ดำเนินพิธีการกินเจสืบทอดต่อไป พี่น้องชาวภูเก็ตต่างพร้อมใจกัน จัดตั้งเป็นศาลเจ้าขึ้นที่อ่างอ่าหล่าย(ซอยรมณีย์)
อยู่มาไม่นานนัก ประมาณในปี พ.ศ. 2450 ก็บังเกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่ซอยรมณีย์ชาวบ้านต่างก็ช่วยกันขนย้ายเหี่ยวโห้ย และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อหนีพระเพลิง ซึ่งในสมันนั้นมีผู้ใหญ่บ้าน คือ นายสุ่ยติ่น แซ่เอี๋ยว นายจี่เต็ก แซ่เจี่ย นายสุ่น (ไม่ทราบนามสกุล) และหลายๆ ท่าน ซึ่งท่านผู้เฒ่าทั้งหลายได้ขนย้ายเหี่ยวโห้ยและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ไปปรึกษากับนายฮก แซ่เอี๋ยว พ่อของนายก่วนสิ่ว เจ้าของที่ดิน ที่ตำบลตลาดเหนือ หมู่ที่ 8 อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต คือที่ต้องศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยปัจจุบัน เพื่อจะสร้างขึ้นเป็นศาลเจ้า 1 หลัง มุงและกั้นด้วยจาก(ซึ่งเดิมที ที่ตั้งของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย เป็นสวนพลู ด้านทิศตะวันออก ที่เป็นถนนหรือเรียกว่าซอยภูธรปัจจุบันนั้นในสมันก่อนเป็นคลองขนาดใหญ่มีเรือใบ 3 หลัก แล่นเข้ามาเทียบท่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวเรือเหล่านี้ จะขึ้นมาสักการะกราบไหว้เจ้าแม่กวนอิมหรือปุดจ้อที่เห็นกันมาตราบจนทุกวันนี้) ผลของการเจรจาปรึกษาก็ตกลงกันด้วยดีท่านทั้งหลายก็ได้อัญเชิญ เหี่ยวโห้ย และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ มาประดิษฐานไว้ ณ ที่ดังกล่าว นับแต่นั้นมาชาวบ้านก็มักจะเรียกกันติดปากว่า ศาลเจ้ากิ้วอ๋อง หรือศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยมาจนถึงทุกวันนี้
ทุกๆ รอบปีของเดือน 9 ขึ้น 1 ค่ำ ของปฏิทินจีน  (เก้าโง้ยโซ่อีด) ก็จะจัดให้มีพิธีการกินเจ ซึ่งสละแล้วทุกสิ่งทุกอย่างหันหน้าเข้าหาพระเป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ซึ่งพี่น้องชาวภูเก็ตของเราก็สืบอายุการกินเจ และปฏิบัติพิธีการต่างๆ ซึ่งถ่ายทอดมาจากพวกคณะงิ้วทุกอย่างจนถึงทุกวันนี้ และก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารศาลเจ้าเพื่อทำงานให้กับศาลเจ้าตลอดมา จนในกระทั้งปี พ.ศ. 2500 คณะกรรมการและชาวบ้านก็ได้ช่วยกันบูรณะเปลี่ยนแปลงหลังคาจากเป็นสังกะสี และขยายต่อเติมศาลเจ้าขึ้นเล็กน้อย ต่อมาในปี พ.ศ. 2520 คณะกรรมการชุดดำเนินงานปัจจุบันได้จัดซื้อที่ดิน 1 แปลง (2 ห้อง) แล้วได้ก่อสร้างโรงครัวขึ้น 1 หลัง อย่างถาวร และได้จัดสร้างสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เพิ่มเติมขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก และได้บูรณะถาวรวัตถุ ต่างๆ อีกด้วย
ทุกๆรอบปีในงานกินเจ จะมีชาวบ้าน พ่อค้า ประชาชน ที่มีจิตศรัทธาต่างก็ได้นำเอาสิ่งของ เครื่องใช้ เช่น ข้าวสาร น้ำมันมะพร้าว น้ำมันถั่ว น้ำตาล ผักสด ธูปเทียน มาถวายให้กับกิ้วอ๋อง ณ ที่ศาลเจ้า ซึ่งคณะกรรมการรับสิ่งของลงบัญชี พร้อมทั้ง  ประกาศของคุณท่านผู้ใจบุญที่มาบริจาค สิ่งของบางอย่างก็จะถูกส่งเข้าไปโรงครัวเพื่อหุงต้มเป็นอาหาร แจกจ่าย ใส่ปิ่นโตให้กับชาวบ้านไปรับประทานเพื่อความเป็นศิริมงคลในครอบครัว เรื่องปัจจัยสุดแล้วแต่ชาวบ้านจะอนุโมทนา คณะกรรมาการไม่ได้กะเกณฑ์

อ้างอิง : หนังสือประวัติงานประเพณีถือศิลกินเจ และ ประวัติย่อศาลเจ้าในจังหวัดภูเก็ต พ.ศ. 2523

img_7718
img_7725
img_7735
img_7737
img_7739
img_7740
img_7741
img_7742
img_7744
img_7754
img_7756
img_7765

สอบถามข้อมูลหรือติดต่อเรา

Contact Us
หน้าหลักประวัติความเป็นมาอัลบั้มรูปติดต่อเรา
© 2016 All rights reserved. Juitui Tao Bo Keang